กฎหมายขายฝาก 2562 (ครบทุกประเด็นที่นายทุนควรรู้)

กฎหมายขายฝาก ฉบับใหม่ ปี 2562 มีชื่อเต็มว่า “พระราชบัญญัติคุ้มครองประชาชนในการทำสัญญาขายฝากที่ดินเพื่อเกษตรกรรมหรือที่อยู่อาศัย พ.ศ. 2562” ได้ประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาวันที่ 16 เมษายน 2562 มีใจความสำคัญ เพิ่มเติมเปลี่ยนแปลงไปจากกฎหมายขายฝากเดิม ที่ระบุในกฎหมายประมวลแพ่งและพาณิชย์
นักลงทุนขายฝาก และ นายทุนขายฝาก ต้องทราบสิ่งใดบ้าง ต้องระวังสิ่งใดบ้าง Investing Prop ขอสรุปให้ เพื่อ ที่นักลงทุนและนายทุน ไม่เสียเปรียบกับการลงทุนรับซื้อฝาก
กฎหมายขายฝากฉบับใหม่ พ.ศ.2562 ประกาศให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน 2562 มีรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ ประกอบด้วย 4 ส่วน 22 มาตรา คือ
- มาตรา 1-5 เกี่ยวกับคำนิยาม และ การบังคับใช้
- หมวดที่ 1 บททั่วไป (มาตรา 6-11) เกี่ยวกับเรื่องข้อกฎหมายขายฝากทั่วไป
- หมวดที่ 2 (มาตรา 12-19) เกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ของผู้ขายฝากและผู้ซื้อฝาก
- บทเฉพาะกาล ใช้กับการขายฝากที่จดทะเบียนก่อนกฎหมายขายฝากฉบับนี้บังคับใช้
การขายฝาก คือ
สัญญาซื้อขาย ซึ่ง “กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินตกเป็นของผู้ซื้อทันทีที่จดทะเบียน” โดยมีสัญญาว่าผู้ขายฝาก (เจ้าของทรัพย์) สามารถไถ่ทรัพย์สินนั้นคืนได้ภายในเวลาที่กำหนด
สิ่งที่เพิ่มเติม เปลี่ยนแปลง จากกฎหมายขายฝากเดิม ในกฎหมายขายฝากฉบับใหม่ 2562 Investing Prop ขอสรุปและเพิ่มเติมข้อมูลอธิบายจากกรมที่ดินดังนี้
กฎหมายขายฝาก : มาตรา 1-5
มาตรา 4
กฎหมายขายฝาก ฉบับใหม่ 2562 นี้ มีผลบังคับใช้เฉพาะ บุคคลธรรมดา ที่นำอสังหาริมทรัพย์จำพวกที่ดินเกษตกรรมและที่ดินอยู่อาศัย มาขายฝากเท่านั้น
การที่ผู้ขายฝากที่เป็นนิติบุคคล หรือ ทรัพย์ที่ขายฝากเป็นการทำเชิงพาณิชย์ หรือ เป็นอื่นๆที่ไม่ใช่เกษตกรรมและที่อยู่อาศัย กฎหมายขายฝากใหม่นี้ไม่บังคับใช้ ให้ใช้กฎหมายประมวลแพ่งและพาณิชย์บังคับใช้โดยอนุโลม
“ที่ดินเกษตรกรรม” หมายถึง ที่ดินนา ที่ดินสวน ที่ดินไร่ ที่ดินนาเกลือ ที่ดินเลี้ยงสัตว์ ที่ดินเลี้ยงสัตว์น้ำ และที่ดินประกอบกิจการอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
“ที่ดินอยู่อาศัย” หมายถึง อาคารสิ่งปลูกสร้างหรือที่ดินที่สำหรับใช้เป็นที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะอยู่อาศัยด้วยและประกอบกิจการด้วย ให้ถือว่าเป็นที่ดินอยู่อาศัย
หมวดที่ 1 : บททั่วไป (มาตรา 6-11)
มาตรา 6
ไม่ว่าสัญญาขายฝากจะจดทะเบียนเป็นประเภทใด หากข้อเท็จจริงปรากฏว่า เป็นที่อยู่อาศัย และ ที่ดินเกษตรกรรม ให้ถือว่ากฎหมายขายฝากฉบับใหม่ 2562 นี้บังคับใช้ด้วย
มาตรา 7
การทำสัญญาขายฝากอสังหาริมทรัพย์ ต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ขอสำนักงานที่ดินเท่านั้น มิฉะนั้นสัญญาขายฝากถือว่าเป็นโมฆะ
มาตรา 8
8.1 ในหนังสือสัญญาขายฝาก ต้องระบุรายละเอียดอย่างน้อยดังนี้
- ชื่อและที่อยู่ของทั้งผู้ขายฝากและผู้ซื้อฝาก
- รายการและทรัพย์ที่นำมาขายฝาก
- ราคาขายฝาก
- สินไถ่
- วันที่ขายฝากและวันที่ครบกำหนดไถ่
* ทั้งนี้ไม่ว่าอย่างไรหากข้อมูลไม่ครบ ทั้งสองฝ่ายก็อ้างเป็นเหตุให้สัญญาเป็นโมฆะไม่ได้
8.2 สินไถ่นั้น จะกำหนดไว้สูงกว่าราคาขายฝากก็ได้ แต่คำนวณเป็นดอกเบี้ยนับแต่วันที่จดทะเบียนขายฝากจนถึงวันครบกำหนดเวลาไถ่แล้วต้องไม่เกินร้อยละ 15 ต่อปี
8.3 หากผู้ซื้อฝากได้รับเงินจากผู้ขายฝาก หรือ รับทรัพย์สิน หรือ รับประโยชน์ใด จากผู้ขายฝากอันเนื่องมาจากทรัพย์ที่ขายฝาก ให้ถือว่าเงิน ทรัพย์สิน และ ประโยชน์เหล่านั้น เป็นส่วนหนึ่งของสินไถ่ที่ชำระแล้วด้วย ไม่ว่าจะมีสัญญาอื่นใดระบุไว้ก็ตาม ดังนั้น หากนายทุนไปเก็บค่าเช่าจากที่ดินแปลงที่ขายฝาก หรือ เก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตรบนที่ดินที่ขายฝาก ระหว่างการขายฝาก ผู้ขายฝากสามารถตีมูลค่าแล้วนำมาหักออกจากยอดสินไถ่ได้
มาตรา 9
สัญญาซื้อขายที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ ที่ดินเพื่อที่อยู่อาศัย หากมีเงื่อนไขว่าจะขายคืน หรือสัญญาว่าจะขายคืน ให้กฎหมายขายฝากฉบับใหม่ 2562 นี้บังคับใช้ด้วย
มาตรา 10
สัญญาขายฝากต้องมีระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 1 ปี และไม่เกิน 10 ปี นับแต่วันที่จดทะเบียนขายฝาก ผู้ขายฝากจะไถ่คืนเมื่อใดก็ได้ ไม่ต้องรอครบกำหนดเวลาตามสัญญา แต่ถ้าไม่ใช้สิทธิไถ่คืนในระยะเวลาที่กำหนดเวลา ย่อมหมดสิทธิ์ไถ่ทรัพย์สินนั้นอีกต่อไป กรรมสิทธิ์ตกเป็นของผู้ซื้อฝากโดยเด็ดขาด (แต่ตกลงซื้อคืนได้)
*สัญญาขายฝาก ซึ่งกำหนดเวลาไถ่ไว้ต่ำกว่า 10 ปี หากผู้ขายฝากไม่อาจใช้สิทธิไถ่ภายในกำหนดเวลาได้ ผู้ขายฝากสามารถตกลงกับผู้ซื้อฝาก เพื่อขยายกำหนดเวลาไถ่ก่อนครบกำหนดเวลาไถ่ โดยหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้ซื้อฝาก และ ควรนำข้อตกลงนั้นมาจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่โดยคู่สัญญาต้องมาดำเนินด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย พร้อมนำหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้ซื้อฝากที่ทำขึ้นก่อนสิ้นสุดกำหนดเวลาไถ่มาแสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ด้วย
หากผู้ขายฝากไถ่ทรัพย์สินก่อนครบกำหนดไถ่ และจำนวนสินไถ่สูงกว่าราคาขายฝาก ให้ลดสินไถ่ส่วนที่สูงกว่านั้นลงตามอัตราส่วนของระยะเวลาไถ่ที่ลดลง ทั้งนี้ ผู้ซื้อฝากสามารถเรียกค่าเสียโอกาสได้ไม่เกินร้อยละ 2 ต่อปีของจำนวนราคาขายฝากคำนวณตามระยะเวลาที่เหลืออยู่ก่อนถึงกำหนดเวลาไถ่ แต่ถ้าผู้ขายฝากต้องไปวางทรัพย์ที่กรมที่ดินเพื่อไถ่ถอน ผู้ขายฝากต้องวางทรัพย์ทั้งจำนวนยอดสินไถ่ แล้วไปเรียกร้องส่วนลดจากผู้ซื้อฝากในภายหลัง
มาตรา 11
หากมีคดีความข้อพิพาทเกิดขึ้นจากการขายฝาก ให้ถือว่าเป็นคดีผู้บริโภค
หมวดที่ 2 : สิทธิและหน้าที่ของผู้ขายฝาก และ ผู้ซื้อฝาก (มาตรา 12-19)
มาตรา 12
ผู้ขายฝากยังคงมีสิทธิครอบครอง ใช้สอย และ ถือเอาประโยชน์จากทรัพย์สินที่ขายฝากได้จนถึงวันที่หมดสิทธิในการไถ่ โดยไม่ต้องชำระค่าตอบแทนให้แก่ผู้ซื้อฝาก (นายทุน) ส่วนดอกผลที่งอกจากทรัพย์สินที่ขายฝากในระหว่างระยะเวลาขายฝากให้ตกเป็นของผู้ขายฝากด้วย
ผู้ขายฝากต้องรักษาและสงวนทรัพย์สินที่มาขายฝาก
มาตรา 13
13.1 หากก่อนทำสัญญาขายฝาก มีบุคคลอื่นมาใช้ประโยชน์ หรือ เช่า อยู่ การขายฝากจะไม่กระทบกับสิทธิของบุคคลนั้นในการใช้ประโยชน์ในทรัพย์ และค่าเช่าค่าตอบแทนจะเป็นของผู้ขายฝาก
13.2 ระหว่างการขายฝาก ถ้าจะมีบุคคลอื่นมาใช้ประโยชน์ ผู้ขายฝากและผู้ซื้อฝาก ต้องตกลงกันเป็นหนังสือว่ายินยอมให้ผู้อื่นมาใช้ประโยชน์ได้ และกำหนดว่าค่าตอบแทนค่าเช่าฝ่ายใดจะได้ หากไม่มีการตกลงกันทั้งสองฝ่าย ผู้ขายฝากให้บุคคลอื่นเข้ามาใช้ประโยชน์ ให้ผู้ซื้อฝากเป็นผู้ได้ค่าตอบแทนค่าเช่านั้น
*แต่ว่ากรณีใดก็ตาม สิทธิที่บุคคลอื่นใช้ประโยชน์จะสิ้นสุดลงเมื่อพ้นกำหนดไถ่และผู้ขายฝากไม่มาไถ่ถอน
มาตรา 14, 15
สิทธิและหน้าที่ของการรับซื้อฝาก สามารถตกทอดไปยังทายาท หรือ โอนให้บุคคลอื่นได้ และ สิทธิในการไถ่ถอนก็สามารถตกทอดไปยังทายาทของผู้ขายฝาก หรือ โอนให้บุคคลอื่นได้เช่นกัน
มาตรา 16
ระหว่างการขายฝาก แม้ว่ากรรมสิทธิ์จะตกเป็นของผู้ซื้อฝากแล้ว แต่ห้ามให้ผู้ซื้อฝากนำทรัพย์ที่อยู่ระหว่างการขายฝากนี้ไปก่อหนี้สินหรือก่อภาระใดๆ เช่น ไปจำนอง เป็นต้น
มาตรา 17
ก่อนวันครบกำหนดเวลาไถ่ “ไม่น้อยกว่า 3 เดือน แต่ไม่เกิน 6 เดือน”
ผู้ซื้อฝาก มีหน้าที่ต้องแจ้งกำหนดเวลาไถ่ และ จำนวนสินไถ่ พร้อมทั้งแนบสัญญาขายฝาก หรือ สัญญาขยายกำหนดเวลาไถ่จากขายฝาก (ถ้ามี) ไปยังผู้ขายฝาก โดยทำหนังสือส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับตามที่อยู่ที่ปรากฏในสัญญาขายฝาก หากผู้ซื้อฝากไม่ใช่ผู้ซื้อฝากเดิม ต้องแจ้งด้วยว่าจะไถ่ถอนกับผู้ใดและต้องชำระสินไถ่ที่ใด หากไม่แจ้งตามวิธีดังกล่าว สิทธิในการไถ่ของ ผู้ขายฝาก จะขยายไปอีก 6 เดือน นับแต่วันครบกำหนดที่ระบุไว้ในสัญญาขายฝาก หรือสัญญาขยายกำหนดเวลาไถ่ (ถ้ามี) โดยชำระสินไถ่ตามจำนวนที่กำหนดไว้ในสัญญาขายฝาก
**หากผู้ซื้อฝากไม่ได้แจ้งไปยังผู้ขายฝากตามกำหนด แต่ผู้ขายฝากดำเนินการไถ่ภายใน 6 เดือน นับแต่วันครบกำหนดไถ่ที่ระบุไว้ในสัญญาขายฝากหรือหนังสือสัญญาขยายกำหนดเวลาไถ่ เจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินจะให้ผู้ซื้อฝากทำหลักฐานเป็นหนังสือว่ามีการไถ่ถอนแล้ว โดยระบุให้ได้ใจความว่า “ผู้ซื้อฝากได้รับค่าไถ่จากขายฝากครบถ้วนและถูกต้องแล้วแต่วันที่ .. เดือน …… พ.ศ. …. ยินยอมให้มีการไถ่ถอนได้” พร้อมทั้งรับรองว่าผู้ซื้อฝากมิได้มีหนังสือแจ้งผู้ขายฝากทราบเกี่ยวกับกำหนดเวลาไถ่และจำนวนสินไถ่
มาตรา 18
หากผู้ขายฝากต้องการไถ่ถอน ต้องขอไถ่ภายในกำหนดเวลาตามสัญญาขายฝาก หรือ สัญญาขยายกำหนดเวลาไถ่ (ถ้ามี) โดยชำระสินไถ่ให้แก่ผู้ซื้อฝาก
**การจดทะเบียนไถ่จากขายฝากเป็นคนละส่วนกับการใช้สิทธิไถ่ การจดทะเบียนไถ่จากขายฝากจะทำเมื่อใดก็ได้ แต่การใช้สิทธิไถ่ต้องทำภายในกำหนดเวลาตามสัญญาขายฝาก หรือสัญญาขยายกำหนดเวลาไถ่ (ถ้ามี) กล่าวคือ ต้องชำระสินไถ่ให้กับผู้ซื้อฝากก่อนครบกำหนดไถ่ถอน เมื่อใช้สิทธิไถ่กับผู้ซื้อฝากแล้ว หลังจากนั้น ก็สามารถมาขอจดทะเบียนไถ่ถอนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ในภายหลัง
ถ้าผู้ขายฝากไม่อาจใช้สิทธิไถ่กับผู้ซื้อฝากได้ไม่ว่าด้วยเหตุใดอันมิใช่ความผิดของผู้ขายฝาก เช่น ประสงค์จะไถ่ถอนแต่ติดต่อผู้ซื้อฝากไม่ได้ ผู้ขายฝากมีสิทธิวางทรัพย์อันเป็นสินไถ่ต่อสำนักงานวางทรัพย์หรือสำนักงานที่ดินทุกจังหวัด หรือสำนักงานที่ดินที่รับจดทะเบียนขายฝาก ได้ภายใน 30 วันนับแต่วันถึงกำหนดเวลาไถ่ หรือนับแต่วันที่เหตุอันทำให้ไม่อาจใช้สิทธิไถ่ดังกล่าวได้สิ้นสุดลง แล้วแต่กรณี
**เมื่อชำระสินไถ่แล้ว กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินที่ขายฝากตกเป็นของผู้ขายฝากทันที ผู้ขายฝากนำหลักฐานเป็นหนังสือซึ่งแสดงว่ามีการไถ่ถอนแล้วจากผู้ซื้อฝาก หรือ หลักฐานการวางทรัพย์ พร้อมหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินมาขอจดทะเบียนไถ่จากขายฝากต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เพียงฝ่ายเดียวได้ แต่ในกรณีที่ผู้ขายฝากวางทรัพย์แล้วไม่ได้หนังสือแสดงสิทธิในที่ดินมา ให้นำหลักฐานการวางทรัพย์มาแสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ เพื่อหมายเหตุไว้ในหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินฉบับสำนักงานที่ดิน และลงบัญชีอายัดให้ทราบถึงการวางทรัพย์ เพื่อป้องกันมิให้ผู้ซื้อฝากทำการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมต่อไป
มาตรา 19
หากผู้ขายฝากไม่มาไถ่ถอนทรัพย์สินภายในเวลาที่กำหนดในสัญญาขายฝาก ให้ผู้ขายฝากต้องส่งมอบการครอบครองให้แก่ผู้ซื้อฝากตามสภาพที่เป็นอยู่ ผู้ซื้อฝากย่อมได้สิทธิโดยปลอดสิทธิใดๆที่ผู้ขายฝาก่อขึ้นระหว่างการขายฝาก แต่หากว่าที่ดินนั้นเป็นที่ดินการเกษตร และปลูกพืชที่ไม่ได้เป็นส่วนควบกับที่ดิน (จำพวกไม่ล้มลุก) ผู้ซื้อฝากต้องยินยอมให้ผู้ขายฝากมาเก็บเกี่ยวผลผลิตภายในระยะเวลา 6 เดือน ถ้าหากเลยเวลาแล้วยังไม่มาเก็บเกี่ยว ให้ถือว่าผู้ขายฝากสละสิทธิในผลผลิตการเกษตรเหล่านั้น
สรุป กฎหมายขายฝาก ฉบับปี 2562 โดยย่อคือ
- พระราชบัญญัติ / กฎหมายขายฝากฉบับ พ.ศ.2562 นี้บังคับใช้เฉพาะ ผู้ขายฝากที่เป็นบุคคลธรรมดานำอสังหาริมทรัพย์ที่ดินการเกษตรหรือที่อยู่อาศัยมาขายฝากเท่านั้น
- ต้องจดทะเบียนขายฝากอย่างถูกต้องต่อพนักงานเจ้าหน้าที่กรมที่ดินเท่านั้น
- ดอกเบี้ยห้ามเกิน 15% ต่อปี
- หากมีการเก็บเงินใดๆจากผู้ขายฝากเกี่ยวเนื่องกับทรัพย์ขายฝาก ให้ถือว่าเป็นส่วนของสินไถ่ที่ชำระแล้ว
- สัญญาขายฝากสามารถจดทะเบียนระยะเวลาขั้นต่ำได้ที่ 1 ปี จะขยายกี่ครั้งก็ได้ ถ้าสองฝ่ายยินยอม และระยะเวลาขายฝากรวมสูงสุด 10 ปี
- ผู้ขายฝากยังคงใช้ประโยชน์ เก็บเกี่ยว เก็บค่าเช่า อยู่อาศัย บนที่ดินระหว่างการขายฝากได้
- ห้ามผู้ซื้อฝากก่อภาระหนี้สินบนทรัพย์ที่นำมาขายฝากระหว่างการขายฝาก
- ผู้ซื้อฝาก ต้องส่งหนังสือแจ้งเตือนผู้ขายฝาก ว่าครบกำหนดเมื่อไร สินไถ่เท่าไร ภายใน 3-6 เดือนก่อนครบกำหนดไถ่
- หากผู้ซื้อฝากไม่ส่งหนังสือแจ้งเตือน ผู้ขายฝากมีสิทธิขยายเวลาไถ่ไปได้อีก 6 เดือน
- หากตามตัวผู้ซื้อฝากมาไถ่ถอนไม่ได้ ผู้ขายฝากสามารถไถ่ได้โดยทำเงินไปชำระที่กรมที่ดินจังหวัด กรมบังคับคดี กรมที่ดินที่จดทะเบียนได้ เมื่อชำระแล้วถือว่าไถ่ถอนแล้ว

คลิกเพื่ออ่านฉบับเต็ม
พ.ร.บ. คุ้มครองประชาชนในการทำสัญญาขายฝากที่ดินเพื่อเกษตรกรรมหรือที่อยู่อาศัย พ.ศ. 2562
แหล่งที่มา




INVESTING PROP CLUB by Capital Estate Group
แหล่งรวมนักลงทุน และ นายทุนอสังหาริมทรัพย์ ทำให้การเป็นนายทุนขายฝากเป็นเรื่องง่ายขึ้น โดย
- เพิ่มผลตอบแทนการลงทุน ด้วยการ ลงทุนขายฝาก เริ่มต้นที่ 12-15% ต่อปี
- เพิ่มความมั่นใจ ปิดความเสี่ยงจากการลงทุน ด้วยทีมงานมืออาชีพ ที่คัดกรองอสังหาฯ ทรัพย์ขายฝาก โดยการประเมินมูลค่า (ราคาซื้อ-ขายจริง) จากบริษัทประเมินตามหลักมาตรฐานของสถาบันการเงิน และ ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก ก.ล.ต. (คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์) อย่างถูกต้อง
- ปฏิบัติตามขั้นตอนทางกฎหมายอย่างถูกต้อง 100%
- ประสานงาน ตรวจสอบข้อมูล และ งานด้านเอกสาร ดูแล นายทุน ตลอดสัญญา
- มีผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำการลงทุนให้เป็นไปตามความต้องการของแต่ละบุคคล
กระจายความเสี่ยงในการลงทุน (Diversified Investment) เพื่อเป้าหมายในชีวิต อาทิเช่น การวางแผนการลงทุน, วางแผนการเกษียณอายุ และ วางแผนการศึกษาบุตร เป็นต้น
Become INVESTING PROP Member
ลงทะเบียน / ขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : www.investingprop.com/register
ฝ่ายประสานงานนักลงทุน 098 915 6481 (Mon – Fri : 10.00 – 18.00)
และ สามารถอ่านบทความเพิ่มเติม ได้ที่
https://www.investingprop.com/บทความลงทุนขายฝากจำนอง/
PASSIVE INCOME สร้างรายได้อย่างยั่งยืน
https://www.investingprop.com/passive-income/
ตัวอย่าง ลงทุนรับจำนอง กับ Investing Prop
https://www.investingprop.com/ลงทุนรับจำนอง/
ตัวอย่างการ ลงทุนขายฝาก กับ Investing Prop
https://www.investingprop.com/ลงทุนขายฝาก/